ปีใหม่ร่วมใจลดอุบัติเหตุ มีสติไม่ประมาท
วันนี้ (28 ธันวาคม 2566) สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
มูลนิธิเมาไม่ขับร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานซึ่งบรรยากาศในงานมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19และอันตรายจากการเมาแล้วขับ มีการแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สติ๊กเกอร์แผ่นพับคู่มือการปฏิบัติตนเองเพื่อป้องกันไวรัสโควิด 19 และคู่มือการเดินทางปีใหม่อย่างไรให้ปลอดภัย
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน และมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่จำนวนมาก ทางกระทรวงคมนาคมจึงดูแลเรื่องความปลอดภัย ทั้งจากไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ กระทรวงคมนาคม มีนโยบายที่สำคัญคือต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน โดยจะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาสุรา การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ ฯลฯ หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก ให้ออก ตัดเงินเดือนหรือพักงาน “ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว
ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า “
ตามที่ทางรัฐบาลได้ออกมาตรการขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น. นั้น มูลนิธิเมาไม่ขับพิจารณาแล้วเห็นว่าการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องที่ดี แต่ในอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นเพิ่มคนเมาแล้วขับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณามาตรการที่จะลดคนเมาแล้วขับ ดังนี้
1. ขอให้มีกฎหมายกำหนดให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และกำหนดความผิดของเจ้าหน้าที่กรณีละเลยการปฏิบัติไม่ตรวจแอลกอฮอล์
2. ขอให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษผู้ที่เมาแล้วขับชนคนตายให้มีโทษจำคุกจาก 3-10 ปี เป็น 12-15 ปี
เพื่อหลีกเลี่ยงการรอลงอาญา
3. ขอให้พิจารณากฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ กรณีปล่อยปละละเลยให้ผู้มาใช้บริการเมาแล้วขับไปชนคนจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับให้กฎหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 เข้าใจถึงความตั้งใจดีของรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผู้ค้าขายได้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การดำเนินนโยบายใดนโยบายหนึ่งย่อมมีทั้งผลดีและผลกระทบ การเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เป็นการเพิ่มคนเมาแล้วขับบนท้องถนน มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเสนอมาตรการลดปัญหาเมาแล้วขับจากนโยบายเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น.ให้กับท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณา