คนห่วงหัว ยื่นหนังสือนายกยิ่งลักษณ์
สนับสนุนนโยบายหมวกกันน็อกเด็ก
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
เทศกาลปีใหม่ ปี 2555 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว หลายฝ่ายคิดว่าอุบัติเหตุได้หยุดลงแล้ว แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้วอุบัติเหตุจราจรยังเป็นภัยร้ายบั่นทอนสังคมไทยและเกิดขึ้นทุกวันไม่มีวันหยุด การรณรงค์ช่วง 7 วันอันตรายคงไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้ง การเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรของ
พี่น้องประชาชนชาวไทย
365 วันตายเป็นศูนย์ น่าจะเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน และทำกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวันเด็กที่จะกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จากสถิติข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี มีการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์โดยที่ไม่สวมหมวกกันน็อก มีจำนวนสูงกว่าปีละ 5,000 คน หรือประมาณการได้ว่าแต่ละวันมีเด็กไทยหัวถูกน็อกจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์มากถึง 14 คน สาเหตุเกิดจากขับขี่และนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก และถ้าดูจากสถิติปี พ.ศ.2554 ทั้งปี จะพบว่ามีเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก
สูงถึง 900 คน
ชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ จึงขอวิงวอนไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครองที่จะพาลูกหลานไปเที่ยวงานวันเด็กที่นำลูกซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แสดงความรัก ความห่วงใยต่อบุตรหลานของท่านด้วยการหาหมวกกันน็อกให้ใส่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในตัวบุตรหลานของท่านเอง กรณีที่เดินทางด้วยรถยนต์ท่านต้องงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด พร้อมกันนี้ต้องเขียนชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าหรือจัดทำเป็นป้ายห้อยคอไว้ที่ตัวเด็กป้องกันกรณีเกิดการพลัดหลง
พร้อมกันนี้ ชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ได้จัดขบวนเยาวชนจำนวน 300 คน เดินจากหน้ากระทรวงศึกษาธิการไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีขอให้กำหนดนโยบายเรื่องหมวกกันน็อกในกลุ่มเยาวชนเป็นนโยบายเร่งด่วน และร่วมรณรงค์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการสวมใส่หมวกกันน็อกให้กับบุตรหลานเพื่อเป็นของขวัญวันเด็ก สนับสนุนปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 % ที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ เวลา 8.30 น.
วันนี้ 14 มกราคม 2555 วัดเด็กแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายคริสโตเฟอร์ เบญจกุล ผู้ประสานงานชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยบุตรสาวและภรรยา
ได้นำตัวแทนเยาวชนกว่า 200 คน สวมใส่หมวกกันน็อกมีข้อความบนหมวกว่า”รักในหลวงต้องห่วงหัว” เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อรณรงค์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เห็นความสำคัญของหมวกกันน็อกแล้วจัดหาให้กับบุตรหลานสวมใส่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยเมื่อต้องนำบุตรหลานซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยในขบวนรณรงค์มีป้ายข้อความรณรงค์ว่า
“รักวัวให้ผูกรักลูกให้สวมหมวกกันน็อก” พร้อมกันนั้นได้มีการแจกสติ๊กเกอร์รณรงค์ให้สวมหมวกกันน็อกให้กับประชาชน
ที่สัญจรผ่านไปมา
นายคริลโตเฟอร์ เบญจกุล ผู้ประสานงานชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ ทุกๆปีหน่วยราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลจัดงานมีของขวัญมากมายให้กับเด็กๆแต่เป็นที่น่าสังเกตว่าของขวัญที่จะนำมาซึ่งความปลอดภัยให้กับบุตรหลานอย่างเช่นหมวกกันน็อกไม่มีใครให้ความสนใจ ทำให้ในปีหนึ่งๆประเทศไทยมีเด็กต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวก
กันน็อกสูงถึง 900 คน บาดเจ็บกว่า 1,500 คน
ชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเรียกร้องไปยัง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้กำหนดเรื่องการสวมหมวกกันน็อกในกลุ่มเยาวชนเป็นวาระเร่งด่วน โดยขอให้ทำควบคู่ไปกับนโยบายการเรียนฟรีในปีการศึกษา 2555 ที่จะถึงนี้ นายคริสโตเฟอร์ กล่าว