ภูธรภาค 3 จับมือภาครัฐ-เอกชน
เปิดโครงการใส่หมวกให้น้อง
วันนี้ (13 ก.ค.2555 ) ณ ห้องประชุมศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา
พลตำรวจโทภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 1 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด
ดร.ปราจิณ เอี่ยมลำเนา ประธานบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คุณอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอพีฮอนด้า จำกัด คุณเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกริกไกรเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เลขาธิการชมรมคนห่วงหัว ได้ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการใส่หมวกให้น้อง ซึ่งภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชนร่วมกันจัดขึ้น
พลตำรวจโทภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า
โครงการใส่หมวกให้น้องเป็นโครงการที่ต้องการมุ่งแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดคือแก้ที่ต้นเหตุ ด้วยการสร้างวินัยให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่ยังเยาว์วัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวมใส่หมวกกันน็อก ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ขับขี่รถและผู้ซ้อนท้ายรถจักรยายยนต์ในประเทศไทย
ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า
โครงการใส่หมวกให้น้องเป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์กับลูกหลานชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่จะได้เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ด้วยความปลอดภัย อีกทั้งยังจะเป็นการกระตุ้นเตือนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองหันมาให้ความสำคัญกับปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของบุตรหลาน
ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เลขาธิการชมรมคนห่วงหัว เปิดเผยว่า
ปีแห่งการสวมหมวกกันน็อก 100 % ได้เริ่มจากปี 2554 และขยายเวลาไปจนถึงปี 2557 1 ปีกว่า ที่ผ่านมา หลังจากประกาศปีสวมหมวกกันน็อก มีสถิติผู้สวมหมวกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2 ขณะที่ในกลุ่มเด็ก เยาวชน สถิติการสวมหมวกต่ำมาก
โครงการใส่หมวกให้น้อง จึงเป็นความร่วมมือที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันจะให้ลูกหลานในจังหวัดนครราชสีมามีความปลอดภัยเมื่อต้องเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ถือเป็นโครงการนำร่องในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดแรก นายแพทย์แท้จริง กล่าว