ข่าวข้อหาเมาในรถ

29 สิงหาคม 55 / อ่าน : 2,836

ข้อหาเมาในรถ 

สุรสิทธิ์ ศิลปงาม

ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ

 

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางพ.ศ.2555 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2555 กำลังเป็นปัญหาในทางปฏิบัติทั้งกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีอำนาจบังคับใช้ตามกฎหมายเป็นอย่างมาก

                คำถามก็คือเหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ประชาสัมพันธ์เนื้อหาของกฎหมายนี้ให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างกว้างขวางเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ล่าสุดมีประชาชนร้องเรียนมายังมูลนิธิเมาไม่ขับว่าขับรถไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดขอนแก่น ก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯมีการดื่มกินในหมู่ญาติไปกัน 9 คน เอารถตู้ไปคนขับไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่หยดเดียวแต่ผู้โดยสารในรถดื่มเจอด่านตำรวจตรวจ ตรวจในรถก็ไม่พบอะไรเพราะไม่ได้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มต่อบนรถ ตำรวจบอกว่าพวกคุณมีความผิดข้อหาเมาในรถ นโยบายผู้ใหญ่ตอนนี้ท่านให้ว่ากล่าวตักเตือนไปก่อน ครั้งหน้าผมเจอผมจับพวกคุณดำเนินคดีส่งฟ้องศาลแน่

                ข้อร้องเรียนดังกล่าวที่มีผู้ร้องมายังมูลนิธิเมาไม่ขับ แสดงให้เห็นว่าขณะนี้มีการตีความประกาศสำนักนายกฉบับนี้ไปในทางที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการละเมิดสิทธิของประชาชนและอาจจะนำไปสู่ช่องว่างของการแสวงหาผลประโยชน์ของตำรวจนอกแถวบางคนได้ กรณีผู้โดยสารไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากสถานบันเทิง ร้านอาหาร เคหะสถานหรือสถานที่ทั่วๆไปแล้วโดยสารรถกลับบ้านโดยไม่พบอุปกรณ์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถที่โดยสารไม่เข้าข่ายความผิดตามประกาศอย่างชัดเจน ประกาศนี้มุ่งเน้นการบริโภคในขณะโดยสารในรถหมายถึงต้องมีแก้วเบียร์ ขวดเบียร์ กระป๋องเบียร์ แก้วเหล้า ขวดเหล้า อยู่ในรถสภาพพร้อมดื่มให้เห็นเป็นประจักษ์จึงจะเข้าข่าย ตรงกันข้ามถ้าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ในรถแต่ยังไม่เปิดก็ไม่เข้าข่ายในความผิดตามประกาศนี้ กลับกันถ้ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในรถแล้วเปิดแล้ว เช่น มีเหล้าที่เปิดแล้ว มีเบียร์ที่เปิดแล้ว แต่วางไว้เฉยๆจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตำรวจและขึ้นอยู่กับการสืบสวนหาความจริงว่าผู้โดยสารคนนั้นได้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ แล้วจะพิสูจน์อย่างไรเพราะประกาศนี้ไม่ได้ให้อำนาจตรวจวัดแอลกอฮอล์เนื่องจากผู้โดยสารไม่ใช่ผู้ขับขี่

                หลายๆ กรณีที่กล่าวมาข้างต้นเป็นปัญหาที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการความชัดเจน เพราะมิฉะนั้นแล้วจะเกิดปัญหาความขัดแย้งจนในที่สุดนำไปสู่การไม่บังคับใช้กฎหมาย ก็ฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องจะจัดสัมมนา จัดทำคู่มือ จัดเวทีสัญจร ฯลฯ จะทำอะไรก็รีบทำอย่าปล่อยให้เกิดช่องว่างของความไม่รู้จนนำไปสู่ช่องว่างของการแสวงหาผลประโยชน์ของตำรวจนอกแถวกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ขณะเดียวกันประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าทำเป็นศรีธนญชัย เมาอยู่ในรถมีทั้งแก้วเบียร์ แก้วเหล้า น้ำแข็งโซดา ขวดเหล้ากับแกล้ม พอตำรวจเรียกตรวจบอกของใครก็ไม่รู้ แบบนี้ก็ต้องจับดำเนินคดีส่งฟ้องศาลเสียให้เข็ด


ความคืบหน้าคดีดัง



QR Code DDD Line
ddd025750101