เมาไม่ขับผนึกพลังทุกภาคส่วน
คืนหัวปลอดภัยให้เด็กไทย
มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน จัดสัมมนา รวมพลังแก้วิกฤตเด็กไทยสมองไหล โดยมีพลตำรวจเอกวุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาสบ.10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับและเลขาธิการชมรมคนห่วงหัว นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและการป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี นายณัฐพงศ์ บุญตอบ นักวิจัยอาวุโส มูลนิธิไทยโรดส์ นายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด นายองอาจ ฉัตรวรชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส วาย เค ออโต้พาร์ค อิมปอร์ต –เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ( ผู้ผลิตหมวกกันน็อก ) นายอลงกรณ์ เหมือนดาว บรรณาธิการข่าว 3 มิติ พร้อมด้วยผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมสัมมนาด้วยเป็นจำนวนมาก
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับและเลขาธิการชมรมคนห่วงหัว เปิดเผยว่า
กว่า 24,000 คน ของคนไทยต้องตายบนท้องถนนในแต่ละปี บาดเจ็บอีกกว่า 1 ล้านคน กลุ่มที่ใช้รถจักรยานยนต์โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกตายมากที่สุด โดยจากสถิติพบว่าในบรรดายานพาหนะประเภทต่างๆ รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ ประมาณร้อยละ 80 และในจำนวนที่เกิดอุบัติเหตุกว่าร้อยละ 90 ของผู้ที่เสียชีวิตพบว่าไม่สวมหมวกกันน็อก ดังนั้นในแต่ละปีมีคนไทยต้องสังเวยชีวิตบนท้องถนนจำนวนมากถึง 14,000 คน เพียงสาเหตุเพราะขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก
งานสัมมนารวมพลังแก้วิกฤตเด็กไทยสมองไหลในวันนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังที่อยากเห็นทุกภาคส่วนผนึกพลังกันร่วมหาแนวทางเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับลูกหลานของเรา ถ้าวันนี้ คสช.มีนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ขอเรียกร้องให้พวกเรามาช่วยกันคืนหัวปลอดภัยให้ลูกหลานเรา มันอาจจะยากที่จะเปลี่ยนความเชื่อของคน แต่ถ้าพวกเรายังจำสุภาษิตไทยที่ว่า “ รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ” วันนี้เราเชื่อว่าพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะใช้ความรุนแรงตีลูกคงมีเปอร์เซ็นต์น้อย แต่เราเชื่อว่าวันนี้มีพ่อแม่จำนวนมากที่ต้องมานั่งเสียใจจัดงานศพให้ลูกเพียงเพราะตามใจลูกเกรงใจลูก ไม่กล้าว่าลูกกลัวลูกจะโกรธ จึงขอฝากสุภาษิตใหม่ในยุคโลกออนไลน์ “ รักวัวให้ผูก รักลูกให้สวมหมวกกันน็อก ” นายแพทย์แท้จริง กล่าว