53 ภาคีไทย-เทศผนึกพลัง
ตั้งองค์กรเพื่อถนนปลอดภัย
วันนี้ 20 พฤษภาคม 2558 ณ ห้องอรรถไกวัลวที ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลเขตดุสิต กรุงเทพฯ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามจัดตั้งองค์กรเพื่อถนนปลอดภัย โดยมีภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ สถานทูต สมาคม มูลนิธิต่าง ๆ ฯลฯ ดังที่มีรายชื่อท้ายนี้ ตกลงที่จะเข้าร่วมเป็นองค์กรเพื่อถนนปลอดภัย และได้มาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในวันนี้ทุกองค์กร
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
รัฐบาลมีความยินดีและขอสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรเพื่อถนนปลอดภัย ความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ถือเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงของประเทศที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข การเกิดขององค์กรเพื่อถนนปลอดภัย ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับประเทศที่จะลดความสูญเสียในชีวิตของคนในประเทศนี้ได้อย่างจริงจัง
ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช ประธานองค์กรเพื่อถนนปลอดภัย และเลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
วันนี้ภาคีเครือข่ายกว่า 53 องค์กร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตระหนักถึงความสูญเสียและความรุนแรง
จากอุบัติเหตุบนท้องถนน ได้พร้อมใจกันจัดตั้ง “องค์กรเพื่อถนนปลอดภัย” ขึ้น มีวัตถุประสงค์หลักที่จะลดการเสียชีวิตบนท้องถนนอย่างต่อเนื่องจนเป็นศูนย์โดยมีพันธกิจหลัก3ข้อคือ1.สนับสนุนการดำเนินการของภาคเอกชนและหน่วยงานต่างๆเพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน2.ผลักดันให้รัฐดำเนินการปกป้องและคุ้มครองให้ทุกชีวิตปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน3.สร้างความตระหนักและความเข้าใจเรื่องสิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้รถใช้ถนน
นายแพทย์แท้จริง เปิดเผยต่อไปว่า
ปัญหาความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนยังไม่ได้ถูกจัดให้เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนของสังคมไทย เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องอื่น ๆ เช่นปัญหาล็อตเตอรี่ราคาแพง ปัญหาคอรัปชั่น ปัญหาอาชญากรรม ฯลฯ ทั้งที่ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยจากอุบัติเหตุทางถนนมากมายมหาศาล ส่งผลให้ประเทศไทยขึ้นอันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเซีย
ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตถึง 24,000 คน ต่อปี บาดเจ็บกว่า 1,00,000 คน พิการปีละกว่า 50,000 ตน และสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี
การเกิดขึ้น “องค์กรเพื่อถนนปลอดภัย” โดยความร่วมมือของกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนคุ้มครองสิทธิที่จะมีชีวิตอย่างปลอดภัยบนท้องถนน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพื่อก่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนทั้งภาคสังคมและภาครัฐ และนำไปสู่การลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
ผมอยากเห็นปัญหาความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังเหมือนเรื่องปัญหาล็อตเตอรี่ราคาแพง และถ้าทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของปัญหานี้ และร่วมมือกันอย่างจริงจัง ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะลดลงอย่างแน่นอน นายแพทย์แท้จริง กล่าวในที่สุด