วันที่ 16 พ.ย. 2561 ที่โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน กรุงเทพฯ มูลนิธิเมาไม่ขับ และชมรมคนห่วงหัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัท ไทย ดอท รัน จำกัด บริษัท เอส.วาย.เค. ออโต้พาร์ท อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด(INDEX) จัดโครงการในรูปแบบกิจกรรม วิ่งเพื่อระดมทุนจัดหาหมวกกันน็อกเด็กมอบให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ขาดแคลนทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อกิจกรรม “RUN FOR KIDS (วิ่งเด็กหมวก)” ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “RUN FOR KIDS (วิ่งเด็กหมวก)” ผ่านทางเว็บไซต์หลัก vdm.run
ทางด้านนายดำรง พุฒตาล ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ และประธานชมรมคนห่วงหัว เปิดเผยว่า ในวาระที่มูลนิธิเมาไม่ขับ ครบรอบ 22 ปีและก้าวเข้าสู่ปีที่ 23 ของการก่อตั้ง ตนจึงขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องกันความปลอดภัยให้กับลูกหลานของเรา ทั้งนี้ โดยทางมูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ได้ร่วมกับ สสส. บริษัท ไทยดอทรัน จำกัดบริษัท เอส.วาย.เค. ออโต้พาร์ท อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด (INDEX) จัดโครงการ RUN FOR KIDS วิ่งเด็กหมวก ขึ้น โดยผู้สมัครวิ่งโครงการ RUN FOR KIDS วิ่งเด็กหมวก 1 รายเท่ากับท่านจะมีส่วนช่วยจัดหาหมวกกันน็อกให้เด็ก 1 ใบ พร้อมกันนั้นยังได้รับเสื้อจากโครงการอีก 1 ตัว ทั้งนี้เมื่อ ปีที่แล้วมีโครงการก้าวคนละก้าว โดยศิลปินตูน บอดี้สแลม หาเงินให้โรงพยาบาล คนไทยทั่วประเทศร่วมแรง ร่วมใจกัน ปีนี้ มูลนิธิเมาไม่ขับ ขอคนไทยช่วยกันอีกครั้งหนึ่ง ร่วมกันสมัครวิ่งในโครงการ RUN FOR KIDS วิ่งเด็กหมวกทุกก้าวที่ท่านวิ่ง หมายถึง ความปลอดภัยที่จะส่งต่อให้ลูกหลานของไทย โดยมูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว สสส. บริษัท ไทยดอทรัน จำกัดบริษัท เอส.วาย.เค. ออโต้พาร์ท อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด (INDEX) จะร่วมกันส่งมอบหมวกกันน็อกเด็ก จากจำนวนผู้สมัครที่ตั้งเป้าไว้ 50,000 คน หมายความถึงหมวกกันน็อกเด็ก 50,000 ใบ ส่งมอบให้อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผ่านไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่ได้ทำการประสานไว้ และสำรวจไว้ทั่วประเทศ
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ และเลขาธิการชมรมคนห่วงหัว เปิดเผย ว่า ทางมูลนิธิฯ ได้ทำงานด้านรณรงค์เรื่องความปลอดภัยทางถนนมากว่า 22 ปี เพื่อลดความสูญเสียบนท้องถนนซึ่งที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯจะทำงานกับผู้ใหญ่เป็นหลัก แต่เมื่อทำงานไปพบปัญหาใหญ่ในสังคมไทย คือความไม่ปลอดภัยของลูกหลานเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทุกๆ วันจะมี เด็กๆ ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน ที่โดยสารรถจักรยานยนต์พ่อแม่ ผู้ปกครองไปโรงเรียน ด้วยความเสี่ยง เนื่องจากบนหัวไม่มีหมวกกันน็อกสวมใส่ ขณะที่พ่อแม่ ผู้ปกครองก็ไม่ใส่ใจเพราะมีความเข้าใจว่า เดินทางระยะใกล้ๆ ไม่มีอันตรายใดๆ การบังคับใช้กฎหมายหมวกกันน็อกกับเด็กๆ ก็ไม่สามารถทำได้เพราะจะถูกกระแสต่อต้านในสังคม เราจึงไม่แปลกใจที่พบว่ามีสถิติเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ปีละ 1,155 คน หรือ 3 คนต่อวัน ขณะเดียวกันหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเรื่องสวัสดิภาพเด็ก ไม่มีการกำหนดยุทธศาสตร์เรื่องการปกป้องความปลอดภัยของเด็ก จากการโดยสารรถจักรยานยนต์เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ลูกหลานของเราจะโตขึ้นบนความเสี่ยง และในที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไร้วินัย ส่งผลให้มีโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จนประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีคนเสียชีวิตสูงอันดับ 1 ของโลก
 |
