เมาไม่ขับเปิดเวที ตามหาความจริง
คดีบอส ยุติธรรมหรือธรรม-ยุติ
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือนายบอส ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สร้างความสั่นสะเทือนต่อภาพลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรม เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสถาบันอัยการและสถาบันตำรวจในฐานะที่มูลนิธิเมาไม่ขับได้ติดตามคดีนี้มา 8 ปี เกิดข้อสงสัยเหมือนกับคนไทยทั้งประเทศ หลังจากที่ได้รับฟังคำแถลงจากอัยการและตำรวจ หนึ่งในข้อสงสัยของสังคมและมูลนิธิเมาไม่ขับ ก็คือกรณีที่ตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายถึง 64.4 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับไม่ฟ้องกรณีเมาแล้วขับ แต่รูปคดีออกมาเป็นว่าเมาหลังขับโดยอาศัยหลักฐานที่ว่าแอลกอฮอล์จะลดลง 15% ทุกชั่วโมงและเมื่อคำนวณกลับไปถึงตอนเกิดเหตุผู้ต้องหาน่าจะมีแอลกอฮอล์ถึง 389 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่มีสติที่จะมาขับรถได้ โดยในเรื่องนี้มูลนิธิเมาไม่ขับพบว่าไม่เป็นความจริง และพร้อมจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่ออัยการและตำรวจ เพื่อพิสูจน์ในเรื่องนี้
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
ในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 เวลา 9.30 -12.00 น. ณ ห้องซิลเวอร์ 3 ชั้น B โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ มูลนิธิเมาไม่ขับได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน จัดเวทีสาธารณะ “คดีบอส ยุติธรรมหรือธรรม-ยุติ” โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมเวทีแลกเปลี่ยน ประกอบด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา อดีตรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ดำเนินการเวทีสาธารณะ พร้อมกันนี้ ได้นำอาสาสมัครมาร่วมทดสอบการหาค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายภายหลังการดื่ม เพื่อพิสูจน์การลดลงของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายทุกชั่วโมง และเพื่อยืนยันว่าคนที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 389 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ไม่มีสติขับรถได้จริงหรือ โดยมูลนิธิเมาไม่ขับคาดหวังว่าเวทีสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันค้นหาความจริงในคดีดังกล่าว และอยากจะเห็นคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคดีเมาแล้วขับ อันจะนำไปสู่ความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน นายแพทย์แท้จริง กล่าว