ปีใหม่ชีวิตวิถีใหม่ สวมหน้ากากอนามัย-มีสติไม่ประมาท
ปลอดโควิด 19-ปลอดอุบัติเหตุทางถนน
วันนี้( 29 ธันวาคม 2563 ) สถานีขนส่งหมอชิต
มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ชีวิตวิถีใหม่สวมหน้ากากอนามัย-มีสติไม่ประมาท ปลอดโควิด 19-ปลอดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งบรรยากาศในงานมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19และอันตรายจากการเมาแล้วขับ มีการแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สติ๊กเกอร์ แผ่นพับคู่มือการปฏิบัติตนเองเพื่อป้องกันไวรัสโควิด 19 และคู่มือการเดินทางปีใหม่อย่างไรให้ปลอดภัย
นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดเสวนา ฉลองปีใหม่อย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ” โดยมีเหยื่อเมาแล้วขับ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จากสถิติอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ เมื่อปี 2563 พบว่ามีคนไทยเสียชีวิต 373 คน บาดเจ็บ 3,499 คน สาเหตุหลักใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ไม่สวมหมวกกันน็อก การฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เป็นต้น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 เนื่องจากมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่จำนวนมาก ทางกระทรวงคมนาคมจึงดูแลเรื่องกฎแห่งความปลอดภัย ทั้งจากไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมายังสถานีขนส่งหมอชิตทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง นอกจากนั้นทางบริษัทขนส่ง จำกัด ได้เตรียมเจลสำหรับบริการประชาชน รวมไปถึงภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ได้นำหน้ากากอนามัยและเจลมาแจกให้ด้วย ส่วนในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม นโยบายที่สำคัญคือต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ทั้งนี้ ได้กำหนดเป็นนโยบายให้พนักงานที่ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ขับขี่รถ บขส. , รถขสมก. และรถร่วมทั้งหลาย โดยจะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาสุรา การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ ฯลฯ โดยเฉพาะรถสาธารณะแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัม หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 0 มิลลิกรัม จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก ให้ออก ตัดเงินเดือนหรือพักงาน “ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว
ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
ปี 2563 กำลังจะผ่านไป คนไทยต้องประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ขณะเดียวกัน สถานการณ์อุบัติเหตุโดยรวมก็ยังความน่าเป็นห่วง สถิติตัวเลขแม้ว่าจะลดน้อยลง แต่ก็ยังจัดว่าเป็นสถิติที่สูงอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับนานาอารยประเทศ เทศกาลปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้ จึงขอให้คนไทยร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยงทั้งจากไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย มีสติ ไม่ประมาทในการขับรถ จะปลอดภัยทั้งจากโควิด 19 และอุบัติเหตุทางถนน นายแพทย์แท้จริง กล่าว