ชีวิตวิถีใหม่ สงกรานต์ปลอดภัย -ปลอดโควิด 19
วันนี้( 8 เมษายน 2564 ) สถานีขนส่งหมอชิต
มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุชีวิตวิถีใหม่สงกรานต์ปลอดภัย -ปลอดโควิด 19 โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งบรรยากาศในงานมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 และอันตรายจากการเมาแล้วขับ มีการแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สติ๊กเกอร์ แผ่นพับคู่มือการปฏิบัติตนเองเพื่อป้องกันไวรัสโควิด 19 และคู่มือการเดินทางสงกรานต์อย่างไรให้ปลอดภัย
นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดเสวนา ฉลองสงกรานต์อย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ” โดยมีเหยื่อเมาแล้วขับ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จากสถิติอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปี 2563 พบว่ามีคนไทยเสียชีวิต 150 คน บาดเจ็บ 1,700 คน สาเหตุหลักใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ไม่สวมหมวกกันน็อก การฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เป็นต้น
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่องมากถึง 6 วัน และมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้าน ทางกระทรวงคมนาคมจึงดูแลเรื่องกฎแห่งความปลอดภัย ทั้งจากไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมายังสถานีขนส่งหมอชิตทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง นอกจากนั้นทางบริษัทขนส่ง จำกัด ได้เตรียมเจลสำหรับบริการประชาชน รวมไปถึงภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ได้นำหน้ากากอนามัยและเจลมาแจกให้ด้วย ส่วนในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ นโยบายที่สำคัญคือต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ทั้งนี้ ได้กำหนดเป็นนโยบายให้พนักงานที่ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ขับขี่รถ บขส. , รถขสมก. และรถร่วมทั้งหลาย โดยจะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาสุรา การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ ฯลฯ โดยเฉพาะรถสาธารณะแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัม หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 0 มิลลิกรัม จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก ให้ออก ตัดเงินเดือนหรือพักงาน “ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าว
ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า “
เทศกาลสงกรานต์ 2564 ที่จะถึงนี้ คนไทยต้องประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ขณะเดียวกัน สถานการณ์อุบัติเหตุโดยรวมก็ยังความน่าเป็นห่วง สถิติตัวเลขแม้ว่าจะลดน้อยลง แต่ก็ยังจัดว่าเป็นสถิติที่สูงอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับนานาอารยประเทศ จึงขอให้คนไทยร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยงทั้งจากไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย มีสติ ไม่ประมาทในการขับรถ จะปลอดภัยทั้งจากโควิด 19 และอุบัติเหตุทางถนน นายแพทย์แท้จริง กล่าว