คนห่วงหัวจับมือผู้ว่า กทม.
ผุดโครงการเด็กยิ้มได้ หัวปลอดภัย
ชมรมคนห่วงหัวร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส,) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน เปิดตัวโครงการ เด็กยิ้มได้ หัวปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อจัดหาหมวกกันน็อกให้กับเด็กนักเรียนในสังกัดกทม.ทั้ง 436 โรง
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการชมรมคนห่วงหัวและเลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
ชมรมคนห่วงหัวได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร สสส.และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะจัดหาหมวกกันน็อกให้กับเด็กนักเรียนในสังกัด กทม.สำหรับสวมใส่เมื่อซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพ่อแม่ ในวันที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 9.00-12.00 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน
เลขาธิการชมรมคนห่วงหัวและเลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยต่อไปว่า
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทางชมรมฯได้ประสานกรุงเทพมหานครเพื่อขอให้พิจารณาแจกหมวกกันน็อกให้กับเด็กนักเรียนในสังกัดทั้ง 436 โรง โดยทางชมรมได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างโรงเรียนในสังกัดกทม. รวม 50 โรง จาก 50 สำนักงานเขต พบว่ามีเด็กนักเรียนสังกัดที่เดินทางมาโรงเรียนด้วยรถจักรยานยนต์เฉลี่ยร้อยละ 7.5 เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อก ขณะที่มีโรงเรียนเพียงแห่งเดียวในกลุ่มตัวอย่างที่มีเด็กนักเรียนสวมหมวกกันน็อกเกินร้อยละ 50 แต่ที่น่าตกใจมีโรงเรียนในกลุ่มตัวอย่างรวม 8 โรง ที่มีเด็กนักเรียนไม่สวมหมวกกันน็อก
ทั้งนี้จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละปีร้อยละ 80 เกิดจากปัญหาการไม่สวมหมวกกันน็อก ถือเป็นเรื่องอันตรายต่อชีวิตเด็กนักเรียนอย่างมาก อย่างไรก็ตามจากการปรึกษาหารือกับรองผู้ว่าฯกทม.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ได้ข้อสรุปว่า กรุงเทพมหานครเตรียมขอจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล จัดซื้อหมวกกันน็อกให้กับเด็กนักเรียนในสังกัดทุกคน ขณะเดียวกันในส่วนของชมรมคนห่วงหัว จะจัดกิจกรรมร่วมกับกรุงเทพมหานครในเดือนเมษายน เพื่อรณรงค์ให้เด็กนักเรียนในสังกัดที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกกันน็อก รวมทั้งจัดทอดผ้าป่าหมวกกันน็อกเด็กเพื่อขอความร่วมมือไปยังหน่วยงาน ห้างร้านและภาคเอกชน เพื่อขอรับบริจาคหมวกกันน็อก จำนวน 5,000 ใบ นำไปมอบให้กับทางกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจัดกิจกรรมเดินรณรงค์จากบริเวณลานคนเมืองไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายใต้หัวข้อ “เด็กยิ้มได้ หัวปลอดภัย” เพื่อรณรงค์ให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญใส่ใจกับการสวมหมวกกันน็อกของเด็ก