ข่าวคมนาคมจับมือเมาไม่ขับ เซฟอุบัติเหตุปีใหม่ 67 ชวนปชช.ร่วมเป็นอาสาตาจราจร

25 ธันวาคม 66 / อ่าน : 929

คมนาคมจับมือเมาไม่ขับ  

เซฟอุบัติเหตุปีใหม่ 67 ชวนปชช.ร่วมเป็นอาสาตาจราจร 

 

วันนี้( 27 ธันวาคม 2566 ) สถานีขนส่งหมอชิต 

     มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ปลอดภัยร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนนโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งบรรยากาศในงานมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้กับประชาชนอันตรายจากการเมาแล้วขับมีการแจกสติ๊กเกอร์ แผ่นพับและคู่มือการเดินทางปีใหม่อย่างไรให้ปลอดภัย

นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดเสวนาฉลองปีใหม่อย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุโดยมีเหยื่อเมาแล้วขับร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จากสถิติอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ เมื่อปี 2566 พบว่ามีคนไทยเสียชีวิต 317 คน บาดเจ็บ 2,437 คน สาเหตุหลักใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด  ไม่สวมหมวกกันน็อก  การฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เป็นต้น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า

กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่ออุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน และมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่จำนวนมาก ทางกระทรวงคมนาคมจึงต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มงวด ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม นโยบายที่สำคัญคือต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ทั้งนี้ ได้กำหนดเป็นนโยบายให้พนักงานที่ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ขับขี่รถ บขส. , รถขสมก. และรถร่วมทั้งหลาย โดยจะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาสุรา การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ ฯลฯ โดยเฉพาะรถสาธารณะแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย  จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก ให้ออก ตัดเงินเดือนหรือพักงาน  ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว

ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า

สถานการณ์อุบัติเหตุโดยรวมยังมีความน่าเป็นห่วง สถิติตัวเลขแม้ว่าจะลดน้อยลง แต่ก็ยังจัดว่าเป็นสถิติที่สูงอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับนานาอารยประเทศ เทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะถึงนี้ จึงขอให้คนไทยร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน มีสติ ไม่ประมาทในการขับรถ  

อย่างไรก็ตามลำพังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ คงไม่สามารถดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนคนไทยได้อย่างทั่วถึง จึงขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 วันอันตราย ถ้าพบเห็นผู้ขับขี่รถที่มีพฤติกรรมเสี่ยงบนท้องถนน ขอให้ส่งคลิปมายังเพจอาสาตาจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ซึ่งท่านอาจได้รางวัล 1 หมื่นบาท ภายใต้โครงการลดอุบัติเหตุทางถนนด้วยคลิปวีดีโอจากความร่วมมือของคนในสังคมโดยใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย ซึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก มอบเงินรางวัลให้กับประชาชนที่ส่งคลิปผู้กระทำผิดมา

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ยังเปิดเผยถึงนโยบายเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ของรัฐบาลว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องที่ดี แต่ในอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นเพิ่มคนเมาแล้วขับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณามาตรการที่จะลดคนเมาแล้วขับ ดังนี้

1. ขอให้มีกฎหมายกำหนดให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และกำหนดความผิดของเจ้าหน้าที่กรณีละเลยการปฏิบัติไม่ตรวจแอลกอฮอล์

2. ขอให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษผู้ที่เมาแล้วขับชนคนตายให้มีโทษจำคุกจาก 3-10 ปี เป็น 12-15 ปี เพื่อหลีกเลี่ยงการรอลงอาญา

3. ขอให้พิจารณากฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ กรณีปล่อยปละละเลยให้ผู้มาใช้บริการเมาแล้วขับไปชนคนจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับให้กฎหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2539 เข้าใจถึงความตั้งใจดีของรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผู้ค้าขายได้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การดำเนินนโยบายใดนโยบายหนึ่งย่อมมีทั้งผลดีและผลกระทบ การเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เป็นการเพิ่มคนเมาแล้วขับบนท้องถนน มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเสนอมาตรการลดปัญหาเมาแล้วขับจากนโยบายเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น.ให้กับท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณา

 

 

 


ความคืบหน้าคดีดัง



QR Code DDD Line
ddd025750101