ที่ มมข.3717/2567
วันที่ 11 ตุลาคม 2567
เรื่อง ขอนำคณะเหยื่อเมาแล้วขับยื่นหนังสือกรณีเมาแล้วขับซ้ำ
เรียน ท่านอัยการสูงสุด
สถานการณ์ความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤตจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมบนท้องถนน
ที่คนไทยต้องเผชิญ โดยในแต่ละวันจะมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ยวันละ 40 คน ย้อนหลังไป 10 ปี ( 2556-2566 )
คนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนประมาณ 200,000 คน เท่ากับประชากรในจังหวัดเล็ก ๆ แห่งหนึ่งสูญหายไปหมดทั้งจังหวัด
สำคัญที่สุดคนที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานอายุเฉลี่ย 15-35 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เป็นกำลังสำคัญของชาติในการสร้างงาน
สร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศเติบโตทัดเทียมนานาอารยประเทศ
สาเหตุประการสำคัญเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถบนท้องถนนที่ไม่ให้ความเคารพต่อกฎแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมเมาแล้วขับ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำมาซึ่งความสูญเสียบนท้องถนน ทั้ง ๆ ที่กฎหมายที่ประกาศใช้อยู่ใน
ปัจจุบัน มีบทลงโทษสูงแต่ผู้ที่เมาแล้วขับหาได้เกรงกลัวไม่
ในฐานะพวกเราเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับผู้สูญเสีย ซึ่งได้เป็นจิตอาสา นำประสบการณ์ความสูญเสียในชีวิตของพวกเรา
รณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมาโดยตลอด แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะถูกด้อยค่าจากผู้ที่เมาแล้วขับในหลายวาระ
หลายโอกาส แต่พวกเราไม่ได้ท้อแท้ คิดเสมอว่าการนำประสบการณ์ความทุกข์ทรมานในฐานะเหยื่อเมาแล้วขับของพวกเรา ถ้าจะช่วย
ให้สังคมเกิดความตระหนักถึงภัยจากการเมาแล้วขับ พวกเรายินดี
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว พวกเราเหยื่อเมาแล้วขับดังมีราชื่อต่อไปนี้
1. นายสุทธิ รักสมัย
2. นส.อักษร มานะเปรม
3. ดวงพร เต่ยเลี้ยง
4. นายอุทัย รัตนชมภู
5. น.ส.วิรัลพัชร ศรีอินทร์
6. น.ส พัชรีย์ ศรศรี
7. นายนันทวัฒน์ โรจน์วรกุลนิธิ
8. นายศักดา บุญสุขศรี
9. นางสาวรจนา ศิริวัฒนา
10. นายประศม สุขแสวง
11. นายมนต์ชัย ตั้งธัชชัย
จึงมีหนังสือมายังท่านเพื่อขอนำคณะเหยื่อเมาแล้วขับ ยื่นหนังสือถึงท่านอัยการสูงสุด ในวันที่ 11 ตุลาคม 2567
เวลา 9.00 น. ณ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมีข้อเสนอดังนี้
1. ขอให้ท่านอัยการสูงสุดกำหนดนโยบายการสั่งคดีเมาแล้วขับ ไปยังอัยการทั่วประเทศ กรณีเมาแล้วขับซ้ำ ขอให้
บรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษผู้ที่เมาแล้วขับซำสถานหนัก ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่มีการแก้ไขแล้วตามพรบ.จราจรทางบก
( ฉบับที่ 13 ) พ.ศ.2565 มาตรา 160ตรี/1 หากมีการกระทำข้อหาเมาแล้วขับภายใน 2 ปี นับตั้งแต่กระทำความผิดครั้งแรก
โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 5,000 -10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลจำคุกและปรับด้วยเสมอ
2. ขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสำนวนคดีเมาแล้วขับ ที่พนักงานสอบสวนส่งมา เนื่องจากปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
บางรายอาศัยช่องว่างของกฎหมายแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ที่เมาแล้วขับ โดยใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดทีเมาแล้ว
ขับซ้ำ มีการจ่ายเงินให้กับตำรวจ เพื่อให้ความช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องฐานเมาแล้วขับซ้ำ พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิด
กฎหมายและผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านอัยการสูงสุดในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของอัยการทั่วประเทศ
จะช่วยให้สังคมไทยปลอดภัยจากคนเมาแล้วขับ เฉกเช่นนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้ว และเป็นเสาหลักแห่งความยุติธรรม
จัดการกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเมาแล้วขับซ้ำซาก รวมไปถึงข้าราชการตำรวจบางรายที่ทุจริตประพฤติมิชอบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ