หมอแท้จริงจัดหนักขาเมาแล้วขับ
วอนศาลขังแทนคุมประพฤติ
วันนี้ที่ห้องประกายเพชร โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับศูนย์วิชาการปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนภาครัฐ ภาคเอกชน จัดแถลงข่าวผลการศึกษาเมาขับจับขัง ใครได้ใครเสีย โดยมีนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) นายจิตรกร พัฒนาศิริ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ เป้นผู้แถลงข่าว พร้อมด้วยผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมเป็นเกียรติ
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับเปิดเผยว่า
ประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงบนท้องถนนสูง และมีสถิติผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และถ้ายังไม่มีมาตรการใหม่ ๆ ออกมา ในไม่ช้าประเทศไทยจะต้องติดอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดของโลก
เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า
ต้องขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี แทนที่จะทำเฉพาะเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ซึ่งแนวคิดนี้ มูลนิธิเมาไม่ขับได้เรียกร้องมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่เกิดผลในทางปฏิบัติเลย ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับไปปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ที่กำลังจะมาถึง ถ้ายังไม่มีมาตรการอะไรใหม่ ๆ ออกมา คนไทยก็ยังจะตายจากกลุ่มอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ต่ำกว่า 300 คน ในช่วง 7 วันอันตรายอย่างแน่นอน
นายแพทย์แท้จริง เปิดเผยว่า มูลนิธิฯจึงขอเสนอมาตรการสำคัญให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้พิจารณา
1.ขอให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศให้นโยบายเรื่องการลดความสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ทุกหน่วยงานต้องตอบสนอง มีตัวชี้วัดที่ประเมินผลได้
2.ขอให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้ทหารทั่วประเทศมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจ ในการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ และจัดการอุบัติเหตุบนท้องถนน
3.ขอให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอความร่วมมือไปยังผู้พิพากษาทั่วประเทศ ขอให้ใช้ดุลพินิจตัดสินผู้ที่เมาแล้วขับ ด้วยโทษกักขังหรือจำคุก โดยไม่รอลงอาญา ทั้งนี้รวมไปถึงร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่เมาแล้วขับไปก่อเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตให้มีความผิดด้วย
มูลนิธิเมาไม่ขับเชื่อว่า 3 แนวทางนี้ จะช่วยให้สถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลงจากสถิติที่เป็นมาในอดีต 300 คน เหลือเพียงไม่เกิน 150 – 200 คน นายแพทย์แท้จริง กล่าว
