ข่าวแฉด่านตรวจเมาขับ สารพัดปัญหารุมเร้า วอนศาลลงโทษหนัก ภัยบนท้องถนน

20 ธันวาคม 59 / อ่าน : 3,725

แฉด่านตรวจเมาขับ สารพัดปัญหารุมเร้า  

เครื่องตรวจเสีย –ขาใหญ่หัวหมอ คนมีสีอื้อ

วอนศาลลงโทษหนัก ถือเป็นภัยบนท้องถนน

 วันนี้ 21 ธันวาคม 2559 ณ ห้องฟังก์ชั่น 6 โรงแรมสยามแอทสยาม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน อาทิเช่น กรมคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร  บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพีฮอนด้า จำกัด บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย จัดเวทีเสวนา เมาแล้วขับ เรื่องปวดใจตำรวจไทย ” โดยมี พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านการจราจร พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร  รรท.รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร  นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมเป็นประธานเปิดเวทีเสวนารับฟังปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ โดยมีผู้แทนตำรวจจากกองบังคับการตำรวจจราจร สถานีตำรวจในพื้นที่นครบาล และตำรวจภูธร จำนวนมากเข้าร่วม

นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า

            ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ ที่มูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ทำงานสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายและการรณรงค์เมาไม่ขับ ปัญหาใหญ่ที่พบก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายขาดแคลนอุปกรณ์ในการทำงาน โดยเฉพาะเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ นอกจากนั้นแล้วมีประชาชนจำนวนมากที่ฝ่าฝืนกฎหมายเมาไม่ขับ อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเพื่อหลบเลี่ยงการลงโทษ มีการใช้อิทธิพลของผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในวงราชการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ทั้งรวมไปถึงการใช้โชเชี่ยลมีเดียแจ้งให้ผู้ที่เมาแล้วขับทราบถึงด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุม

            การจัดเวทีเสวนาในวันนี้ จึงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีกฎหมายเมาไม่ขับในประเทศไทย เพื่อเปิดใจตำรวจผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ ถึงปัญหาอุปสรรคในการทำงาน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับที่มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนต่อไปในอนาคต

นายแพทย์แท้จริง เปิดเผยต่อไปอีกว่า

            สังคมไทยยังมองปัญหาเรื่องเมาแล้วขับเป็นเรื่องเล็ก และเมื่อเกิดเหตุยังมีความเห็นใจผู้กระทำความผิด ซึ่งต่างกับในต่างประเทศที่มองปัญหาการเมาแล้วขับ เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากมีความเชื่อว่าผู้ที่เมาแล้วขับมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎหมายไม่ใช่เหตุแห่งความประมาท เพราะพฤติกรรมเมาแล้วขับเป็นพฤติกรรมที่ผู้ขับขี่รู้อยู่แก่ใจว่า มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งกับตนเองและผู้อื่น มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเรียกร้องให้ศาลสถิตยุติธรรมลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเมาไม่ขับในสถานหนักด้วยการจำคุกหรือกักขังโดยไม่รอลงอาญา เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าว

 

หมายเหตุ :        ปี 58 ผู้ถูกคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับ ทั่วประเทศ 47,950 คน

                        ปี 59 ผู้ถูกคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับ วันที่ 1 ม.ค. – 30 พ.ย. เมาแล้วขับ 36,810 คน

 


ความคืบหน้าคดีดัง



QR Code DDD Line
ddd025750101