มูลนิธิเมาไม่ขับเข้าพบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเพื่อขอเสนอมาตรการลดความสูญเสียทางถนน วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณหน้าโถงทางเดิน ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี มูลนิธิเมาไม่ขับ โดย นายวัลลพ สาลี ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับในมูลนิธิเมาไม่ขับจังหวัดปทุมธานี พร้อมเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เข้าพบ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อยื่นหนังสือขอเสนอมาตรการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 โดยเฉพาะกรณีเมาแล้วขับ โดยมี นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ นางสาวสุพีพร โมรา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี ร่วมรับขอเสนอ ดังนี้ 1. ปัจจุบันกฎหมายจราจรฉบับใหม่ได้ประกาศบังคับใช้แล้วกรณีผู้ที่ถูกจับในคดีเมาแล้วขับขอให้มีการตรวจประวัติว่าเคยกระทำความผิดฐานเมาแล้วขับในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งอยู่ในการคุมประพฤติหรือไม่ เนื่องจาก พรบ.จราจรฉบับใหม่ที่มีการแก้ไขระบุว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนเมาแล้วขับในระยะเวลาที่ถูกคุมประพฤติต้องถูกส่งฟ้องศาลจังหวัด เพื่อให้ศาลพิจารณาลงโทษสถานหนักด้วยโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา เพราะมิฉะนั้นแล้วกฎหมายที่ประกาศไว้ก็จะไร้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นการป้องปรามผู้ที่กระทำผิดซ้ำซาก เนื่องจากพฤติกรรมเมาแล้วขับเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับผู้บริสุทธิ์ที่ใช้รถใช้ถนน อีกทั้งยังเป็นการลดช่องว่างในการแสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่บางคน บางกลุ่ม จากคดีเมาแล้วขับอีกด้วย 2. กรณีที่เกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจพบแอลกอฮอล์ ในร่างกาย ขอให้ท่านสั่งการให้พนักงานสอบสวนหาตัวบุคคล ร้านค้า นิติบุคคล ที่ขายเหล้าหรือมีส่วนสนับสนุนให้เด็กบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเสียชีวิต เพื่อนำตัวมาลงโทษ ตาม พรบ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ พรบ.คุ้มครองเด็ก เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านั้นลอยนวล ค้าขายร่ำรวยด้วยชีวิตของเยาวชน 3. กรณีที่เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในทันที ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อครหา จากประชาชนว่ามีการเลือกปฏิบัติ