หมอแท้จริงเตือนไม่หยุดรถทางม้าลาย
ตร.จัดหนักส่งฟ้องศาลไม่ใช่แค่ปรับ
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยถึง
กรณีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนทางม้าลายเหตุเกิดที่ทางม้าลายหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยหลังจากมีภาพปรากฏต่อสื่อสาธารณชน และสื่อโซเชียลมิเดีย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีได้ตามไปจับกุม นายเจษฏา พลเยี่ยม มาดำเนินคดีและส่งฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน โดยศาลได้ตัดสินจำคุก นายเจษฏา พลเยี่ยม เป็นเวลา 1 เดือน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และปรับเป็นเงิน 3,000 บาท กำหนดเงื่อนไขให้คุมประพฤติและรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติทุก 3 เดือน
เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยต่อไปว่า
ขอเตือนผู้ขับขี่รถการไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายอาจเป็นความเคยชินที่ผู้ขับขี่ทำมาตลอดแต่ปัจจุบันมีกล้องCCTV กล้องหน้ารถ กล้องจากโทรศัพท์มือถือ มีสายตาของประชาชนคอยจับจ้องอยู่ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้การสนับสนุนประชาชนเป็นอาสาตาจราจรส่งคลิปผู้กระทำความผิดและมีรางวัลให้ การไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายจึงถือเป็นความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถต้องหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายไม่ใช่คนข้ามต้องคอยรอหรือรอให้บนถนนไม่มีรถจึงข้ามได้ สิทธิ์ของผู้ข้ามทางม้าลายมาก่อนผู้ขับขี่ซึ่งเป็นหลักกฎหมาย และหลักสากลทั่วโลก ดังนั้นการที่ผู้ขับขี่รถฝ่าฝืนไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายและถ้าเกิดการเฉี่ยวชนผู้ข้ามทางม้าลายบาดเจ็บจะมีโทษหนักในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเตือนผู้ขับขี่รถ ถ้าขับขี่รถมาถึงทางม้าลายท่านต้องหยุดรถให้คนข้ามก่อนเสมอ กรณีถ้ามีสัญญาณไฟให้หยุดแม้ไม่มีคนข้ามท่านก็ต้องหยุด เพราะมิฉะนั้นจะมีความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก ฐานไม่หยุดรถที่ทางม้าลายมีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท นายแพทย์แท้จริง กล่าว
